พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 9

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า 9 เรื่องราวของคุณเดวิด เด วิดเป็นชายหนุ่มที่มีอายุ 48 ปี เดวิดเป็นชาวอิหร่าน อาศัยอยู่ในประเทศมานานกว่า 20 ปีแล้วในฐานะผู้อพยพลี้ภัยคนหนึ่งของสหประชาชาติ เมื่อ 12 ปีที่แล้วคุณเดวิดได้มาที่บ้านของคณะปีเมที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือ ในระหว่างนั้นก็ยังมีผู้อพยพลี้ภัยจำนวนหลายชาติทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศปาเลสไตน์ อิรัก อัฟกานิสถาน คองโก กานา ซิเอร่าลีออน และอีกหลายๆประเทศที่มาขอความช่วยเหลือจากคณะปีเมที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดวิดเป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายใหญ่โตกำยำบึกบึน ข้าพเจ้าได้ขอให้เดวิดช่วยเล่าประวัติส่วนตัวของเขาให้ข้าพเจ้าฟัง เดวิดเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เดวิดเกิดมาจากครอบครัวนายทหาร พ่อของเดวิดเป็นนายทหารชั้นสูงยศระดับนายพล และเดวิดเองก็ได้จบการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร เขาเป็นชายหนุ่มมุสลิมที่มีความเลื่อมใสศรัทธา เอาจริงเอาจังและกระตือรือร้นในศาสนาอิสลามของเขามาก นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเกลียดชังต่อคริสตศาสนาอีกด้วย เขาเคยถูกสอนมาว่า “ถ้าเขาจับหรือสัมผัสกับสุนัข เขาจะต้องล้างมือเขาให้สะอาดถึง 3 ครั้ง และถ้าเขาสัมผัสหรือติดต่อกับคริสตชน เขาจะต้องล้างมือเขาให้สะอาดถึง 6 ครั้ง” และเรื่องอื่นๆอีกอีกมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการดูถูกเหยีดหยามและไม่ถูกกัน ระหว่างผู้นับถือศาสนาของทั้ง 2 ศาสนา คือ...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 8

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า 8 “การประกาศข่าวดีแห่งพระวรสารในประเทศไทยปี ค.ศ. 2000” ( พ.ศ. 2543) ข้าพเจ้าพบบทความเหล่านี้ในสมุดจดบันทึก เล่มหนึ่งของข้าพเจ้า บุคคลในสมุดจดบันทึกเล่มนี้ของข้าพเจ้า พวกเขาไม่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเลย พวกเขาเติบโตมาในบรรยากาศของการถูกเอารัดเอาเปรียบจากบุคคลอื่นและจากสังคม สิทธิและศักดิ์ศรีของพวกเขาได้ถูกริดรอนและถูกกดขี่ข่มเหง และพวกเขาก็ได้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง จิตใจของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยบาดแผล พวกเขาถูกทอดทิ้งจากทุกคนที่อยู่รอบข้างพวกเขา จนทำให้พวกเขาไม่สามารถไว้ใจและเชื่อใครได้อีกเลย แม้กระทั่งบุคคลที่ใกล้ชิดกับพวกเขาเอง ปัญหาต่างๆมากมายที่รุมเร้าพวกเขานี้ ทำให้พวกเขาดิ้นรนและแสวงหาความปลอดภัยให้กับตัวพวกเขาเอง รวมทั้งแสวงหาความเข้าใจและความรักจากบุคคลอื่น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพบมันได้เลย “เหมือนกับลูกแกะที่ปราศจากผู้เลี้ยงะ” บรรดาผู้หญิงก็ถูกทอดทิ้งจากสามีของพวกเขาเอง ผู้ชายหลายคนต้องกลายเป็นคนติดยาเสพติด แสวงหาผู้หญิงโดยไม่เลือกหน้าเลือกตา ลุดท้ายก็ต้องติดเชื้อเอชไอวี(เชื้อโรคเอดส์) บางคนก็ต้องตายก่อนระยะเวลาอันควร หรือ ติดสุราอย่างเมามายจนไม่สามารถหยุดได้ บรรดาผู้ที่เป็นแม่ไม่สามารถดูแลลูกๆได้อย่างดีและตามหาลูกๆของพวกเขากลับมา ได้ เพราะยุ่งอยู่กับการทำงานหาเงินจนไม่รู้จักคำว่าพอ เพียงแค่เพื่อที่จะยกระดับฐานะครอบครัวของตนเองให้ดีขึ้น ติ๋ม เธอเป็นผู้หญิงที่มีอายุ 54 ปี สามีของเธอได้ใช้จ่ายเงินจนหมดสิ้น สุดท้ายก็ต้องขายที่ดินและบ้าน ติ๋มและลูกชายอายุ 12 ปี ไม่มีที่อยู่อาศัย แม้แต่ห้องที่จะหลับนอน ติ๋มเต็มไปด้วยหนี้สินนอกระบบพร้อมดอกเบี้ยสูงที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ย 20 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน เจ้าหนี้ต้องส่งคนติดตามติ๋มอยู่ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 7

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 7 “พลังอำนาจแห่งการเยียวยารักษาของพระเป็นเจ้า”          คืนหนึ่งในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนอนหลับและได้ฝันไปว่า ข้าพเจ้าอยู่ในเรือนจำ(คุก) ในเรือนจำนี้เองข้าพเจ้าถูกขังไว้ในกรง ข้าพเจ้าไม่มีแขน มีเพียงแค่ขาข้างเดียวเท่านั้น เมื่อข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา ข้าพเจ้าพยามที่จะเข้าใจความหมายของความฝันนั้น และแล้วในวันเดียวกันนั้นเองความหมายของความฝันของข้าพเจ้านั้นก็ชัดเจนขึ้น เมื่อข้าพเจ้าได้ไปกับสามเณรใหญ่แสงธรรมประมาณ 3-4 คน เพื่อที่จะไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจกับประชาชนที่บ้านพักสำหรับบุคคลที่ ไร้ที่อยู่อาศัยทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปถึงบริเวณที่พักของพวกเขา ข้าพเจ้าเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนพื้น ส่วนอีกคนก็เดินไปมาโดยที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่ อีกคนก็กำลังร้องตะโกน อีกคนก็กำลังกระโดด อีกสองคนก็กำลังชกต่อยกัน และมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่มีขาเป็นคนพิการและตาบอด ข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาทันทีว่า บุคคลเหล่านี้มีลักษณะเหมือนกับตัวข้าพเจ้าเอง คือ การตกเป็นทาสของผีปีศาจ และการถูกทอดทิ้งจากผู้คนรอบข้าง ข้าพเจ้าจึงได้เกิดความรู้สึกสงสารพวกเขาเหล่านั้นเป็นอย่างมาก ที่สุดบรรดาสามเณรและข้าพเจ้าก็ได้ทำการอาบน้ำแต่งตัวให้กับพวกเขา ตัดผมให้พวกเขา ตัดเล็บมือเล็บเท้าให้กับพวกเขา ให้เสื้อผ้าใหม่กับพวกเขาใส่ ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุขมาก อะไรก็ตามที่ข้าพเจ้ากระทำกับบุคคลเหล่านี้ พระเป็นเจ้าก็จะทรงกระทำกับข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน     วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งสวดภาวนาอยู่ที่ม้านั่งยาวในสวนของบ้าน คณะปีเมที่อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ข้าพเจ้าได้เห็นมือข้างหนึ่งกำลังลงมาจากข้างบน ข้าพเจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามือที่กำลังลงมาจากข้างบนนี้จะทำร้ายข้าพเจ้า หรือไม่ ข้าพเจ้ารู้สึกกลัวและก็คิดขึ้นมาทันทีเกี่ยวกับมือที่กำลังยื่นลงมาจากข้าง บนนี้ อีกครั้งหนึ่งในขณะที่กำลังสวดภาวนาข้าพเจ้าก็เห็นมือข้างหนึ่งข้างเดิมที่ ข้าพเจ้าเคยเห็น ข้าพเจ้าต้องการที่จะเห็นและรู้ให้ได้ว่าเป็นมือของใครกันแน่ ที่สุด ข้าพเจ้าก็พบว่าเป็นมือของบิดา(คุณพ่อ)ของข้าพเจ้าเอง...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 6

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 6        ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เองระหว่างปี ค.ศ. 1987-1988 ข้าพเจ้าได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์(ผู้ติดเชื้อเอชไอ วี)เป็นครั้งแรก ข้าพเจ้าได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยโรคเอดส์จากการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จากผู้มีอำนาจในฝ่ายของกรมสุขภาพและอนามัย ข้าพเจ้ารู้สึกสงสารพวกเขาเหล่านั้น มีทั้งบรรดาชาวหนุ่มหญิงสาวที่กำลังนอนรอความตาย ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าควรจะทำบางสิ่งบางอย่าง ที่สุด ข้าพเจ้าได้เช่าบ้านหลังหนึ่งสำหรับพวกเขา มีนักศึกษาจากบางมหาวิทยาลัยได้เข้ามาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วย และต่อมาพวกเราก็ได้สร้างบ้านเล็กๆหลังหนึ่งให้สำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์เหล่า นี้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณโบสถ์ โดยมีอดีตรักร้องประจำห้องอาหารมาเป็นอาสาสมัครช่วยดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ เหล่านี้ ในช่วงเวลานั้นยังไม่มียาต้านเอชไอวีหรือยาที่มาช่วยบรรเทาอาการผู้ป่วยโรค เอดส์แต่ประการใด นอกจากอาศัยความจริงใจและความซื่อสัตย์จากหัวใจของพวกเราเองในการอุทิศตน การให้อาหารที่ดีแก่พวกเขา การให้พวกเขาได้มีโอกาสออกกำลังกาย และ ให้พระวาจาของพระเป็นเจ้าเป็นยาบำรุงเยียวยารักษาพวกเขา         ที่โรงพยาบาล เราได้พบกับคุณโสมนัส ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีอายุประมาณ 30 ปี เขาถูกส่งมาหาพวกเราที่นี่โดยกรมราชฑัณฑ์จากการที่เขาติดคุกอยู่ในเรือนจำ และติดเชื้อเอชไอวี เขาดูเหมือนว่ากำลังป่วยอยู่ในระยะสุดท้าย และเขาก็ยังเป็นคนที่มีหน้าตาขลึมขลังและดุร้ายน่ากลัวพอสมควร เขาเป็นผู้ค้ายาเสพติดและเป็นผู้ติดยาเสพติดด้วย กรมราชทัณฑ์ไม่ต้องการที่จะให้เขากลับเข้าไปในเรือนจำอีก และทางโรงพยาบาลก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะส่งเขาไปที่ไหนต่อ นางพยาบาลได้ถามข้าพเจ้าว่า บ้านของเราสามารถที่จะรับคุณโสมนัสนี้ไปพักอาศัยอยู่ในบ้านพักสำหรับผู้ป่วย โรคเอดส์ของเราได้ไหม ข้าพเจ้าและนักศึกษาที่ทำงานอยู่กับข้าพเจ้าก็ยินดีและตกลงที่จะรับเขาเข้า มาพักอาศัยอยู่ในบ้านของเรา       ทุกๆวัน ข้าพเจ้าจะถามคุณโสมนัสว่า...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 5

“จงเปิดหัวใจของท่านเถิด” วันหนึ่งข้าพเจ้าที่กำลังเดินตามทางแคบๆ ที่ตึกแดง ซึ่งเป็นชุมชนสลัมในเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ข้าพเจ้าได้พบกับเด็กผู้หญิงเล็กๆ 2 คน ข้าพเจ้าถามพวกเธอว่า “ทำไมพวกเธอไม่ไปโรงเรียนหละ?” พวกเธอตอบข้าพเจ้าเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น ข้าพเจ้าจึงถามต่อไปอีกว่า “พวกเธออาศัยอยู่ที่ไหน?” พวกเธอก็ชี้ให้ข้าพเจ้าดู ข้าพเจ้าก็เลยถามต่อไปอีกว่า “แล้วแม่ของพวกเธอหละอยู่ที่ไหน?” เด็กผู้หญิงคนที่โตกว่า ซึ่งอายุราวๆประมาณ 5 ปี เดินมาจับมือข้าพเจ้าและพาข้าพเจ้าเดินไป หลังจากนั้นก็บอกให้ข้าพเจ้ารออยู่ตรงนั้นก่อน เธอเข้าไปในกระท่อมโทรมๆเล็กๆหลังหนึ่งและก็เดินออกมาให้สัญญาณกวักมือเรียก ข้าพเจ้าเข้าไปในกระท่อมโทรมๆหลังนั้น ในกระท่อมหลังนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ของพวกเธอทั้งสองกำลังนอนอยู่บนที่นอน พวกเธอทั้งสองเข้าไปสวมกอดและจูบแม่ของพวกเธอ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ เด็กผู้หญิงสองคนนี้ก็เลยบอกให้ข้าพเจ้าถอยห่างออกไปก่อนสักเล็กน้อย ซักพักพวกเขาก็ยิ้มแสดงความดีใจและกระโดดพลางพูดว่า “เย้…วันนี้เราจะได้ทานอาหารที่ดีและเอร็ดอร่อยกัน” หลังจากนั้นเด็กทั้งสองก็พาข้าพเจ้าไปที่บ้านของพวกเขาซึ่งทำจากไม้ที่เอามา ต่อกันเป็นแผ่น ครึ่งหนึ่งของพื้นบ้านอยู่ในโคลนตม หลังคาเต็มไปด้วยรูโหว่ ผ้าขี้ริ้วหล่นอยู่ตามพื้นแทบทุกที่ ในบ้านหลังนั้นก็มียายของเธอทั้งสองซึ่งตาบอดและกำลังนอนป่วย มีผู้ชายบางคนเมาเหล้าและกำลังนอนหลับอยู่ ขณะนั้นข้าพเจ้าจึงได้สวดภาวนาว่า “คงจะมีสักวันที่ข้าพเจ้าจะได้ทำในสิ่งที่ข้าพเจ้าวาดหวังไว้” 2-3 วันต่อมาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในสองคนนี้ได้โทรศัพท์มาหาข้าพเจ้าและบอก ข้าพเจ้าถ้าหากข้าพเจ้าต้องการที่จะให้เธอทั้งสองมาช่วยงานข้าพเจ้า แหละนี่แหละคือคำตอบของทั้งหมด ที่สุดข้าพเจ้าได้เปิดบ้านสำหรับเด็กผู้หญิงที่อยู่ในสลัมเป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาก็ถูกเรียกว่า “บ้านแห่งความหวัง” เด็ก ผู้หญิงสองคนนี้ก็เป็นเด็กสองคนแรกที่ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านแห่งความหวัง นี้...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 4

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 4              จากการฝึกนั่งวิปัสนา(การนั่งสมาธิแบบชาว พุทธ)ของข้าพเจ้านี้เอง เป็นวิธีการหนึ่งที่ได้ช่วยให้ตัวข้าพเจ้าสามารถยอมรับความเป็นจริงว่า “ข้าพเจ้า ได้ทำสิ่งนี้” “ข้าพเจ้าได้ทำสิ่งนั้น” “ข้าพเจ้าเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมาน” “คนอื่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน” “ขอให้มันดำเนินต่อไป” “มันได้เกิดขึ้น มันได้จบสิ้นลง ขอให้มันดำเนินต่อไป” “ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวข้าพเจ้าเองล้มเหลวในทุกสิ่งทุกอย่าง มันได้เกิดขึ้น มันได้จบสิ้นลง ขอให้มันไปดำเนินต่อไป” ในองค์พระเยซูคริสตเจ้าทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง และในองค์พระเยซูคริสตเจ้าผู้ซึ่งว่างเปล่าไม่มีอะไร ตัวข้าพเจ้าเองก็ว่างเปล่าและไม่มีอะไรจากความปราถนาต่างๆ จากความหวาดกลัวต่างๆ พระเยซูคริสตเจ้าทรงตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อย่า มองดูตัวเองเพียงแค่บาปต่างๆของท่านเท่านั้น แต่ให้มองดูที่เราและชื่นชมยินดีเพียงแค่ความรักของเราที่มีต่อท่าน จงมีความสุขที่ท่านได้มาอยู่กับเราและร่วมโต๊ะงานเลี้ยงกับพระบิดาของเรา” จากความว่างเปล่าไม่มีอะไรของพระเยซูเจ้านี้เองทำให้พระองค์สามารถที่จะทำ ตามน้ำพระทัยของพระบิดาได้ พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้นำความสมบูรณ์ครบครันตามแบบการรู้แจ้งเห็นจริงของพระ พุทธเจ้า พุทธศาสนาบอกว่า มนุษย์มีตัวตนของตัวเอง ซึ่งไม่ได้มาจากตัวของมนุษย์เอง ราคะตัณหาต่างๆที่เกิดจากความมีอิสระเสรีส่วนตัวของข้าพเจ้า (การถูกประจญล่อลวงของอาดัมและเอวา) นับว่าเป็นสิ่งที่โง่เขลาและได้นำความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดมาสู่ ข้าพเจ้า อีกทั้งราคาะตัณหาต่างๆเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ของข้าพเจ้าและเพื่อทุกสิ่ง ทุกอย่างนั้นสามารถนำความสุขความชื่นชมยินดีมาสู่ข้าพเจ้าเพียงแค่ในบัดนี้ และเดี๋ยวนี้เท่านั้น (ดูตัวอย่างการถูกประจญ 4 ประการของพระเยซูเจ้า) แต่น่าเสียดายที่มันเป็นสิ่งที่โง่เขลาสำหรับข้าพเจ้า ราคาะตัณหาต่างๆจากการมีอิสระเสรีเพื่อการดำรงชีวิตอยู่และเพื่อทุกสิ่ง ทุกอย่างนั้นสามารถนำความสุขความพอใจในทันทีทันใดจริง แต่ก็ก่อให้เกิดความน่าเกลียดน่าชังและเกิดความรุนแรง...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 3

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 3     ในระหว่างที่ข้าพเจ้าพักผ่อนอยู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี่ ที่ศูนย์ฝึกอบรมชีวิตจิตหรือ ชีวิตภายในสำหรับบรรดามิชชันนารี่ ซึ่งใกล้กับมหาวิหารนักบุญเปโตร ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งภายในจิตใจของข้าพเจ้า มันไม่ใช่เป็นความเจ็บปวดฝ่ายร่างกาย แม้ว่าร่างกายของข้าพเจ้าจะอ่อนแอและเจ็บปวดก็ตาม ข้าพเจ้ารู้ว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้มันมาจากพระเป็นเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่รู้และไม่ทราบว่ามันคืออะไรกันแน่และมันหมายความว่าอะไรกัน แน่ ข้าพเจ้ารู้แต่เพียงสิ่งเดียวคือว่าไม่มีใครสามารถทุเลา บรรเทาหรือเอาความเจ็บปวดต่างๆเหล่านี้ออกไปจากตัวของข้าพเจ้าได้ นอกจากบุคคลที่ประทานหรือมอบความเจ็บปวดต่างๆเหล่านี้ให้กับตัวข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าพยายามใช้เวลาส่วนมากกับการรำพึงและสวดภาวนา หลังจากหลายปีผ่านไป ข้าพเจ้าจึงเข้าใจและคิดได้ว่าพระเป็นเจ้านั่นเองคือยาสมานแผลที่ดีที่สุด ที่จะสามารถทุเลา บรรเทาและรักษาความเจ็บปวดต่างๆสำหรับข้าพเจ้าได้ หรือเป็นพระเป็นเจ้าเองที่เป็นเสมือนดาบที่ฟันข้าพเจ้าและรักษาข้าพเจ้าด้วย ในเวลาเดียวกัน ในเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 1987 เมื่อข้าพเจ้าได้รับการอนุญาตจากคุณพ่อมหาธิการเจ้าคณะปีเมของข้าพเจ้าให้ กลับไปทำงานแพร่ธรรมต่อที่ประเทศไทย ข้าพเจ้าได้รับการร้องขอให้ประจำอยู่ที่โบสถ์ใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่มีหน้าที่รับผิดชอบใดๆโดยเฉพาะ นอกจากการพักผ่อนและรักษาสุขภาพร่างกายของข้าพเจ้าเท่านั้น และคุณพ่อมหาธิการเจ้าคณะบอกให้ข้าพเจ้าพยายามแสวงหาคุณพ่อวิญญาณรักษ์และ นักจิตวิทยาที่ดีสำหรับช่วยเหลือและเยียวยาตัวข้าพเจ้าเอง จากการที่ได้ประสบกับปัญหาต่างๆมากมาย รวมทั้งเรื่องโรคหัวใจของข้าพเจ้าด้วย และข้าพเจ้าก็ได้เริ่มแสวงหาในทันทีทันใดที่มาถึงประเทศไทย ข้าพเจ้าได้พักอยู่ที่บ้านเข้าเงียบที่เชียงใหม่ เป็นระยะเวลา 1 เดือน และหลังจากนั้นข้าพเจ้าก็จะต้องไปที่บ้านเข้าเงียบที่เชียงใหม่เป็นประจำทุก เดือนภายในระยะ 6 เดือน อาศัยคุณพ่อวิญญาณรักษ์และนักจิตวิทยาที่นี่เองได้ช่วยข้าพเจ้าให้สามารถ วิเคราะห์ชีวิตในอดีตของข้าพเจ้าที่ผ่านมา โดยอาศัยการสวดภาวนาและการรำพึงไตร่ตรอง...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 2

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า ตอนที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1978 คุณพ่ออธิการคณะปีเมของข้าพเจ้าได้ขอให้ข้าพเจ้าไปเป็นธรรมฑูตหรือมิชชันนา รี่ผู้แพร่ธรรมที่ประเทศไทย ข้าพเจ้าได้เรียนภาษาไทยและได้มีประสบการณ์หนึ่งในช่วงเวลา 3 เดือนที่ข้าพเจ้าไปพักอาศัยอยู่ในวัดกับพระของศาสนาพุทธ(ครูบา) ที่วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ในปี ค.ศ. 1980 พระสังฆราช โรเบิร์ต รัตน์ บำรุงตระกูล ประมุขของสังฆมณฑลเชียงใหม่ในเวลานั้น ได้ขอให้ข้าพเจ้าไปทำงานอภิบาลแพร่ธรรมที่จังหวัดลำปาง ข้าพเจ้าได้ทำงานอย่างหนักและทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อการประกาศข่าวดีให้กับ ประชาชนที่นั่น รวมทั้งดูแลเรื่องทุกข์สุขของชาวบ้านที่นั่นด้วย ในเวลาเดียวกัน ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าตัวเองเต็มไปด้วยความขัดแย้งกับพระเป็นเจ้า กับตัวเอง และกับประชาชนอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายก็ทำให้ข้าพเจ้าเกิดเป็นโรคหัวใจในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1986 หลังจากนั้น 9 ปีผ่านไปตั้งแต่ประสบการณ์แรกของข้าพเจ้ากับคำพูดที่ว่า “เรารักท่าน พร้อมกับบาปของท่าน” ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าพยายามที่จะร่วมมือในการตอบรับต่อความรักของพระเป็นเจ้า แต่ก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ในความเป็นจริงแล้วดูเหมือนว่า ยิ่งข้าพเจ้ามีความพยายามมากเท่าใดข้าพเจ้าก็ยิ่งไม่สามารถประสบผลสำเร็จได้ เลย ดูเหมือนว่า ข้าพเจ้ากลายเป็นคนบาปมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำไป ที่สุด...

Continue reading

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 1

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ตอนที่ 1 “เรารักท่าน พร้อมกับบาปของท่าน”       ในปี ค.ศ. 1997 เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ 31 ปี และบวชเป็นพระสงฆ์มาได้ประมาณ 5 ปี คุณพ่อวิญญาณรักษ์ของข้าพเจ้าที่มหาวิทยาลัยแมรี่เกลด ในบ้านเณรของคณะปีเม (คณะธรรมฑูตแห่งกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี่) ที่เมืองดิทรอยท์ รัฐมิซิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา      คุณพ่ออธิการบ้านเณรของคณะปีเมที่นี่ได้ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ให้คำแนะนำหรือ เป็นคุณพ่อวิญญาณรักษ์ให้กับบรรดาสามเณรที่เรียนจบระดับมหาวิทยาลัยของบ้าน เณรแล้ว และจะเข้าสู่ปีแห่งการฝึกฝนชีวิตจิตหรือชีวิตภายใน เพื่อเตรียมตัวที่จะถวายตัวครั้งแรกในคณะปีเมต่อไป      เพื่อที่จะเตรียมตัวข้าพเจ้าเองสำหรับงานชิ้นสำคัญนี้ ข้าพเจ้าได้ขออนุญาตจากคุณพ่ออธิการเจ้าคณะของคณะปีเมในสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะไปเข้าเงียบ 30 วันตามรูปแบบของนักบุญอิกญาซีโอ ผู้ก่อตั้งคณะเยซูอิต ที่ลาโคลอมบีแอเร ซึ่งเป็นบ้านสำหรับการเข้าเงียบของคณะเยซูอิต      หลังจาก 10 วันแรกของการเข้าเงียบที่นั่น คุณพ่อผู้นำเทศน์การเข้าเงียบให้กับข้าพเจ้าได้บอกข้าพเจ้าว่า “อาด รีอาโน, เธอยังไม่ได้เริ่มต้นการเข้าเงียบเลยนะ เพราะดูเหมือนว่าเธอกำลังวุ่นวายกับการเขียนและจัดเตรียมเอกสารต่างๆ รวมทั้งคำแนะนำอื่นๆสำหรับบรรดาสามเณรที่เธอกำลังจะไปให้คำแนะนำหรือเป็นคุณ พ่อวิญญาณรักษ์ให้กับเขา เธอไม่ได้ให้ความสำคัญหรือตั้งใจในการที่จะสร้างความสนิทสัมพันธ์กับพระเยซู เจ้า...

Continue reading